
“ละมั่งในฝูงราชสีห์”
วันที่ 8 สิงหา คือวันแรกที่เราจะได้เข้า Class วันแรก (มีเข้า class เรียนสองวันก่อนจะสอบ) เรียนกันเต็มๆวัน 8 โมงยัน 6 โมง (เอาเข้าจริงลากไป เกือบสองทุ่ม)
ที่พักอยู่ใกล้ที่เรียนมาก อาบน้ำ (มีผ้าเช็ดตัวแร้วว) เดิน 5 นาทีถึงที่เรียน (ระยะทาง 5 นาทียังสู้แดด และความชื้นเซี่ยงไฮ้ไม่ได้ เปียกทั้งหลังอยู่ดี -“-)
ไปถึงลงทะเบียนก่อนเลย เพื่อนร่วมคลาสน่าจะมีร่วม 40 คน ส่วนใหญ่แน่นอน เพื่อนชาวจีน มีต่างชาติน่าจะ แคนาดา 1 ญี่ปุ่น 1 มาเล 4 ฮ่องกง 2
ดูๆ แล้วแต่ละคนดูมี ออร่า เปล่งประกาย กันถ้วนหน้า โดยส่วนใหญ่แทบทุกคนที่จะสอบ Level 2. Certified จะมีดีกรี WSET Level 3 กันมาแล้ว ไม่ก็สอบจากสถาบันในประเทศตัวเองมาแล้ว เรียกว่าติดบั้งกันมา ระดับนึงเลย พอหลายๆคนได้คุยกับเรา พอรู้ว่าเราไม่เคยสอบ ไม่เคย take course อะไรที่เกี่ยวกับไวน์เลย พวกเค้าก็แบบ ว่าเฮ้ย ยูว์ จะสอบเอา level 2 เลยเหรอ ไม่เอา 1 ไปก่อนเหรอ มัน Challenge ไปไหม เราก็แบบว่า ฮือออออ ไม่รู้แร้วว กดดันมาก
ผู้คุมสอบแจ้งว่า สอบข้อเขียนของ Level 1ในเช้าวันที่สาม มีข้อสอบ 60 ข้อ
ถ้าได้เกิน 70% ถึงจะมีสิทธิไปสอบ Level 2.
ถ้าได้ไม่ถึง 60% ตก เชิญกลับบ้านได้
ทีนี้ถ้าเกิน 70% แต่ไม่มั่นใจว่าจะผ่าน Blind taste กับ Service จะถอนตัว เอาแค่ Level 1 ก็ได้ ยินดีคืนเงินการสอบ Level 2
เราก็คิดในใจว่าดูผลประกอบการในห้องเรียนไปก่อนละกันยังมีเวลาตัดสินใจ
“เริ่มคลาส”

ภาคทฤษฎี : อย่างที่บอกไป โพสต์ก่อนหน้า Master เค้าจะแค่มา ทวนให้เฉยๆ ว่า อันนี้ยูว์ ต้องรู้นะ อันนี้รู้ยัง อันนี้เน้นนะ อันนี้ห้ามลืม อันนี้ด้วย อันนั้นอีก แบบรัวๆๆๆๆๆๆๆ ผ่านไปไวมากๆ มี Master 4 คน (ในโลกใบนี้มี Master 243 คนมาอยู่หน้าเรา 4 คนนี่ถือว่าเป็น ประสบการณ์ที่หาได้ยากมาก) ผลัดกันบรรยาย แต่ละคนมี สไตล์ไม่เหมือนกัน จะมี Master Matt wilkin ก็จะเป็นสายฮา หน่อย พอคลายความเครียดกันได้
Master Brian Julyan นี่ตำนานของ CMS เป็น 1 ใน founder เป็น CEO มา 41 ปี!!!! เพิ่งจะลงจากบัลลังก์เมื่อเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นโชคดีของเราเพราะไม่รู้ แกจะสอนอีกกี่คอร์ส
##รวมๆ ภาคทฤษฎีนี่ไม่เครียดมาก รวมๆ ที่ Master ทวนให้ ที่เราอ่านมาพอจะครอบคลุม มีเรื่องที่ต้องจำเพิ่มพอสมควรแต่คิดว่าไหวอยู่กะว่าไว้ทวนก่อนนอน ##
ภาค Blind taste : ทุกครั้งที่เราเดินออกไปเบรค กลับห้องมา จะมี แก้วไวน์รอต้อนรับเราอยู่เสมอ จะ 2 จะ 4 จะ 6 แก้วแล้วแต่โอกาส แต่ 2 วันที่เรียนเราจะได้ Blind taste รวม 20 ตัว เริ่มตั้งแต่เช้าเลย
อันนี้แหละหายนะของจริง เพราะ ประเดิม 2 แก้วแรก ผิดเต็มๆ Y Y แต่ Master ปลอบว่าผิดวันนี้ดีกว่าวันสอบ Master จะช่วย ไกด์เราไปเรื่อยๆ พยายามเค้นจมูก และ ลิ้นเรา ให้ทำงานเยอะที่สุด ที่สำคัญ แกคอยเชค เลยว่าใครไม่ยอมบ้วนไวน์ทิ้ง
เพราะยิ่งเราดื่มเยอะเกิน เราก็เมา ประสาทสัมผัสเราจะล้าไปเรื่อยๆ
เพื่อนร่วมคลาส เปล่งประกายกันเหลือเกิน มีเทพซอมหญิง จากมาเก๊า blind ถูกเกือบ 100% เขต แคว้น ปี ได้หมด เทพมากก ดูจาก performance ตัวเองแล้ว ยอมรับเลยเรามัน ละมั่งน้อย ชัดๆ ผิดแบบไม่น่าอภัยตัวเองในหลายๆแก้ว
“พักเที่ยง”
จบครึ่งเช้าแบบ มึนๆ ความมั่นใจที่มีอยู่น้อยอยู่แล้วมันก็ลดไปอีก รู้สึกไม่ค่อยอยากคุยกับใคร ไม่อยากรู้จักใคร ขออยู่เงียบๆ จนมี เพื่อนร่วมคลาสชาวจีนคนนึงเดินมาคุยด้วย “Tyler คุง” คุยไปคุยมาได้เค้าเป็น Mentor ส่วนตัว Tyler เป็น Somm ของ แชงกรีล่า ที่เซี่ยงไฮ้ (อยู่ไทยก็ได้ ต้น Somm ภาคภูมิ โตวัชรกุล แชงกรีล่าที่เชียงใหม่เป็น Mentor 555) Tyler เค้ามาสอบ Level 1 เมื่อปีที่แล้วผ่านเรียบร้อยปีนี้จะมาเก็บ Level 2 ดูเป็นคนจริงใจ น่ารัก เพื่อนเยอะ เค้าก็พยายามแนะนำให้เรารู้จักหลายๆ คน เราก็รู้สึกความเครียดลดลงไป 20% ได้
ช่วงบ่าย เหมือนช่วงเช้าเลย ทฤษฎีรัวๆๆๆ Blind taste ทำได้ดีขึ้นนิดนึง เข้าเป้าบ้างละ ใจชื้นขึ้นมานิด แต่ยังรั้งท้ายชาวบ้านเค้าเยอะเลย แปร๊บจะหมดวันละ จบคลาส ด้วย Master Lu Yang โชว์สเตปเทพ การ service Champagne ดูแล้วก็อนาถตัวเอง จะทำได้ไหมนี่ Y Y จบวันเป็นหมาหงอย ไถๆ ตัวเองไปพักใจ ไวน์บาร์ ร้านเดิม กินไวน์ ไม่อร่อยเลย ปรับทุกข์ กับ Thanyalak TJ Bumba Pete Jummum เสร็จละเข้านอน
จบวันที่ 8 สิงหา
ปล. รูปนี้คือการฝึก part service ในห้องนอนโดยหาจากอุปกรณ์ภายในห้อง เจอขวดไวน์เปล่า โดยละม่อม