
ช่วงนี้ได้มีโอกาส มางานไวน์ทั้งที่เชียงใหม่ และ กทม แบบรัวๆๆ ซึ่งแต่ละงานก็ได้มีโอกาส ได้ลอง Blind tasting กันเยอะพอดู โดยต่างวัตถุประสงค์กันไป เลยอยากเขียนเรื่อง Blind tasting กันซะหน่อยจริงๆอยากเขียนนานแล้วแต่มันขี้เกียจเกิ๊น น่าจะหลายตอนหน่อยนะครับ ใครคิดว่าเป็นประโยชน์ก็อ่านๆ กันดูนะครับ มาๆ เริ่มๆ
อยากเริ่มด้วย Blind tasting ทำไม?? เพื่ออะไร?? ได้อะไร?? Blind tasting ไวน์ คือการปิดฉลาก ไม่ให้เห็นว่าไวน์ที่เราชิมอยู่คือ อะไร (จะให้ดีต้องไม่ให้เห็นทรงขวดด้วยเพราะมันพอเดาได้)
Blind ทำไม?? : อันนี้เท่าที่เจอมีสาเหตุเยอะเลย
– แข่งกันสนุกๆ ลองภูมิกัน บลัฟกัน
– เพื่อเตรียมไปสอบ Sommelier
– เพื่อประกวดไวน์
เหตุผล หลักๆ ที่เราต้อง “ปิดฉลาก” ก็เพื่อ ลดอคติ ของเราจาก การดูฉลาก เพราะเมื่อตาเราเห็นฉลาก สมองเราก็จะเริ่ม ตัดสินไปประมาณนึงละ ว่าไวน์นี้จะเป็นยังไง (โดยเฉพาะถ้าเราพอรู้ราคาไวน์นั้นๆ มีงานวิจัย เยอะเลยว่าเวลาคนเรารู้ว่าไวน์แพง สมองเราจะบอกเราไว้เลยว่ามันดี) ไม่ก็บางคนมี อคติ กับ ไวน์บางประเทศ บางชนิด ว่าไม่ชอบเพราะนู่นนี่นั่น พอเห็นฉลาก ว่ามาจากนี่ โอ๊ยๆ กินไม่ได้ๆ ไม่อร่อย ไม่ชอบ ไว้ก่อน การปิดฉลาก นี่ทำให้เราใช้ จมูก และ ลิ้น ของเราอย่างเต็มที่โดย ปราศจาก มายาคติ จาก “ฉลาก”
ทีนี้ ถ้าวกกลับ มาถึงเรื่องการสอบ Sommelier ว่าทำไมเขาต้องกำหนดให้มีการสอบ Blind taste ด้วยหละ??? เอาไว้โชว์ลูกค้ารึ??? หรือเอาไว้โชว์เวลาสมัครงาน??
ถ้าถามผม ผมว่า การที่ Somm ต้อง Blind taste หลักๆ คือเรื่อง การทำเมมโมรี่ กลิ่น รส ของไวน์ แต่ละ พันธุ์องุ่น แต่ละประเทศ, เขต, แคว้น, สไตล์ เพื่อที่จะบอกเล่าให้ลูกค้าได้ (ถึงแม้จะเป็นไวน์ที่ไม่เคยดื่มมาก่อน) หรือ บอกได้ว่าไวน์ off flavor หรือเสีย รวมถึง แยกแยะไวน์ดี ไวน์ด้อยคุณภาพได้
ทีนี้ พอเรารู้ว่าเราจะ blind ไปทำไม ก็มาถึงขั้นตอน blind ยังไง??
1. สถานที่ :
– แนะนำว่าเป็น ห้องแอร์ดีกว่า บ้านเรามันร้อนเกินกินไวน์ outdoor จริงๆ
– แสงไม่มืดไป เพราะไม่งั้นดูสีไวน์ ขาไวน์ยาก แสงโทนขาว โทน warm white พอไปไหว
– หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มี aroma รุนแรง
– ถ้าไปร้านอาหาร / ร้านไวน์ ก็ควรแจ้งเขาหน่อยว่าสะดวกไหม (ถ้าเจอเจ้าของเป็นคนรักไวน์ ก็ดีไปครับ เพราะบางทีมันอาจจะป่วนเขาหน่อยเรื่องการ service
2. บุคลากร : ถ้าจะ blind กันจริงๆจังๆ หา host ที่มีความรู้เรื่องไวน์ เตรียมไวน์เป็น นี่จะดีมากครับ เป็นคนกลางในการจัดการไวน์ให้ เรียงลำดับไวน์ให้ ละที่สำคัญรินไวน์ให้เราโดยที่เราไม่เห็นทรงขวด 555
3. โจทย์ของไวน์ที่นำมา blind : อันนี้แล้วแต่วัตถุประสงค์ของการ blind ในวันนั้นๆ เลย เช่น
– Blind เพื่อไปแข่ง หรือไปสอบ อันนี้แต่ละสถาบันก็จะมี gird ของไวน์ที่ใช้สอบ/ใช้แข่ง อยู่ แล้ว โดยส่วนใหญ่ไวน์ก็จะเป็นแนว classic style ของ region นั้นๆ จะไม่เจอไวน์แบบ หลุดโลก หลุด style ที่ควรเป็น
– Blind แบบ focus เป็นเรื่องๆ เช่น พันธุ์องุ่นเดียวกัน แต่คนละเขต /ไวน์โลกเก่าโลกใหม่ / traditional vs modern
– Blind เอาสนุก อันนี้ก็ free style เลยครับ หลอกกันหัวทิ่มหัวตำตามสะดวก ไวน์ประหลาดๆ (เช่น ไวน์อาร์เมเนีย หรือ ไวน์ทำจากองุ่นที่ไม่เคยได้ยินชื่อ)
จบตอน 1 ก่อนเด้อ มีอีกยาวเลย