เส้นทางสู่การเป็น Sommelier

บันทึกจากปาย สู่เซี่ยงไฮ้ part#8 ตอนจบ

บันทึกจากปาย สู่เซี่ยงไฮ้ part#8 ตอนจบ

โพสต์ยาวสุดในชีวิต

“วันก่อนสอบ”

น่าจะเพราะความเครียด นอนตอนเที่ยงคืนมันสะดุ้งตื่นเอง ตี สาม!! เวรกรรม พยายามข่มตาหลับ มันก็ไม่หลับซักที แป๊บๆ ตีห้า พระอาทิตย์ขึ้นแร้ว จะรีบหนายยยย ไหนๆ นอนไม่หลับเลยตื่นมาอ่านหนังสือยันเช้า ตื่นไปเข้าคลาสแบบมึนๆ เจอ แก้วไวน์ 6 แก้วรอต้อนรับแต่เช้า (ปรกติเจอไวน์นี่ดีใจจนอยากกระโดดใส่ แต่มาวันนี้รู้สึก เกรงไวน์มันมาก รู้สึกได้เลยว่าแก้วไวน์ที่นี่มันหนักมาก หนักในแง่จิตใจนะ กว่าจะยกมาดมแต่ละแก้วรู้สึกว่ามันท้าทายเราเหลือเกิน)

วันนี้รวมๆเหมือนเมื่อวาน ทฤษฎีรัวๆ แต่พอ blind taste Master จะไม่ค่อยไกด์มากละ ปล่อยให้ฉายแสงกันเอง ให้อาสากันเองว่าใครอยากบรรยายตัวไหน ซึ่งเพื่อนๆ ทำกันได้ดีมากกกกกๆๆๆ ประทับใจมาก

วันนี้ตอนพักเที่ยง ได้นั่งกินข้าว กับ Master Darius Allyn สองต่อสอง รู้สึกได้เลยว่าเหล่ายอดมนุษย์เหล่านี้ มี“คาริสม่า” กันทุกคน คนเป็นยอด Somm ได้ไม่ใช่แค่ ความรู้เรื่องไวน์ ความรู้เรื่องคนก็สำคัญมาก เพราะสุดท้ายเราขายไวน์ ให้ “คน” ได้คุยกับ Master นี่อิ่มกว่าข้าวเยอะ

จบวันที่สองแบบ เหนื่อยๆเพราะนอนน้อย ไถลตัวเข้าบาร์เดิม หวังว่าไวน์น่าจะช่วยให้หลับฝันดี zzzz

ปรากฎ เข้าสูตรเดิม นอนเที่ยงคืน ตื่นตีสามมมมม

แม่เจ้า ทำไงดี ตื่นมาอ่านหนังสือ ยาววจนเช้าาา

อาบน้ำแต่งตัว (วันนี้ต้องใส่สูท ตอนสอบ part service) พุ่งไปสนามสอบ

แหม่วันนี้ทุกคนแต่งกันเต็มยศ ใครมีเข็ม มีบั้ง อะไรใส่มากันหมด สองวันแรกที่เรียนนี่แต่งกันตามสบายมาก แหม่ๆ วันนี้ smart กันสุดๆ ใส่สูทผูกไทกันหมด เนคไท เนคไท ? …….. เฮ้ย ลืมไว้บ้าน ไว้พักเที่ยงวิ่งกลับไปเอาละกัน

“สอบทฤษฎี Level 1. “ @8:00 am

60 ข้อ เราต้องทำ ให้ได้ 42 ข้อเพื่อไปต่อ หรือ 36 ข้อเพื่อไม่กลับบ้านมือเปล่า บรรยากาศดูตึงเครียด ทุกคนไม่ได้มากันเล่นๆ สอบจริง ตกจริง ตก ก็รออีกปีไว้แก้ตัว เปิดหน้าข้อสอบมา ลองพลิกดูรอบนึงพบว่าโอเค ไม่น่าห่วงอะไร ทำเสร็จ 1 รอบลอง นับๆ ข้อที่ชัวร์ๆ พบว่าน่าจะได้ไปต่อ

@10:00 am. กรรมการ เรียกเหล่านักเรียน ทีสอบ level 1 มารวมกันห้องเล็ก (พวกที่สอบ level 2 ไปรออีกห้อง มีอีกหลายๆคนที่เราไม่เคยเจอหน้าเพราะเขาไม่เข้าเรียนด้วย แต่มาสอบ level 2 อย่างเดียว)

กรรมการให้ทุกคนตั้งแถวหน้ากระดาน (ความรู้สึกเหมือนบ้าน AF) ขานชื่อทีละคนที่ได้ไปต่อ level 2. ชื่อเพื่อนๆทยอยออกมาทีละคนๆ กรรมการหยุดพักนึง กลอกตา … ผมขอยอมแพ้ ผมอ่าน นามสกุล เค้าไม่ออก เพื่อนๆ ฮาครืน รู้ว่าเป็นผม แน่ๆ 555
คุณ pira คุณได้ไปต่อ ดีใจมากตอนนั้น อย่างน้อยไม่กลับบ้านมือเปล่าละ เยสสสสส

กรรมการถามว่าจะมีใครถอนตัวการสอบ level 2 ไหมยังมีโอกาส ได้เงินคืนนะ ทั้งห้องเงียบกริบ ไม่มีใครถอย กรรมการ พาพวกเราไปสมทบกับอีกห้อง เจอ Tyler ยิ้มให้ พูดกับเราเบาๆ Good job

@11:00 Level 2. Theory + Blind Taste
ไปถึงในห้องเจอ แก้วไวน์เพื่อนรัก ขาว 1 แดง 1 พร้อมกระดาษข้อสอบ นั่งยิ้มรอเราอยู่ มีเวลา 45 นาที ในการ ดู ดม ดื่ม และ ข้อสอบ 40 ข้อ กรรมการบอก จัดการไวน์ก่อนค่อยทำข้อสอบ ไม่งั้น aroma หายหมด

Blind taste : ดมๆไวน์ขาว นี่ใจแป้วละ เป็นตัวไม่ถนัดเลย เวลาจำกัดมาก คิดนานไม่ได้ มีอะไรใส่ให้หมด พุ่งไปไวน์แดงต่อ พอดมนี่ ร้องพระเจ้าาา มีโอกาสรอดละ ตัวถนัด ลุ้นๆๆ น่าจะพอไหว

Theory : เปิดมาหน้าแรก ใจชื้นละ เข้าเป้าหลายข้อ พอเปิดไปหน้า สอง สาม ….. ม่ายยยยยย จะยากไปไหน หน้าสี่ ….. ฮืออ อยากกลับบ้าน กระดกไวน์ที่เหลือในแก้ว สำหรับ blind taste ย้อมใจ ก่อนนั่งคำนวณ เราต้องการ 65% เพื่อผ่าน ข้อสอบมี 40 ข้อ เราต้องการ 26 ข้อเพื่อผ่าน
ทำไปทำมา เรามี 24 ข้อที่ชัวร์ๆ ขออีกสองๆๆ ปัญหาคือ มันเป็นข้อสอบแบบ เติมคำ เพราะฉะนั้นมั่วยากมากกกก แต่เติมไปทุกข้อไม่มีเว้น บางข้อรู้แต่ไม่ชัวร์ว่าสะกดถูกไหมไม่รู้กรรมการ จะใจดีให้เราไหมถ้าสะกดผิด เอาเป็นว่าถ้าผ่านนี่ฉิวเฉียดมาก กรรมการส่งสัญญาณเหลืออีก 10 นาที ไม่รู้จะนั่งลุ้นไรอีก กลับไปเอาเนคไท ดีกว่า

ออกจากห้องทุกคนวิ่งมาเชคคำตอบกันใหญ่ เราก็ด้วย เฮ้ยโอเครเลย น่าจะผ่านนนนนนน วิ่งตัวปลิวกลับบ้าน ท่ามกลางแสงแดดที่แสนจะอบอุ่นของเซี่ยงไฮ้

คว้าเนคไท กลับมานั่งกินข้าวแบบด่วนๆๆๆ เพื่อทบทวน wine list, cocktail ในหัวรอบสุดท้าย กรรมการเรียกไปให้ดูลำดับ การสอบ part service แม่เจ้า เกือบคนสุดท้าย 14:50 ก็ดีๆได้มีเวลาทบทวน

เพื่อนๆเข้าไปทีละคนๆๆ ออกมาหน้าซีดเซียวกันหลายคน กรรมการ จะจับแยก คนสอบเสร็จ ให้ออกไปที่อื่น ห้ามคุยกับคนยังไม่สอบ

ยิ่งรอนานยิ่งกดดัน กระดกน้ำดื่มไป 5 ขวดแล้ว เข้าห้องน้ำ 6 รอบ ยังไม่ถึงคิวซักที คนเหลือน้อยลงเรื่อยๆ เหลือเรา กับเทพซอมหญิงแห่งมาเก๊า กรรมการเห็นสีหน้าเราเลยเข้ามา moral support ชวนคุย บอกให้วางหนังสือได้แล้วชวนเพื่อนคุณคุยดีกว่า เฮฮา กัน แปร๊บๆ ถึงคิวเชือดดด เข้าห้องไปพร้อมเทพ เทพก็คือเทพ ซอมหญิงคนนั้น สอบห้องเดียวกับเรา ห่างกัน สามเมตร ฝีมือห่างกัน 3 เท่าตัว ไวมากๆ เปิดแชมเปญเงียบกริ๊บ ตอนเธอเปิดเรายังพับผ้าไม่เสร็จเลย Y Y

ไม่เคยต้องอยู่ในสภาวะกดดันขนาดนี้ตั้งแต่เกิด มือสั่นสิครับ ห้องเงียบกริบ สายตากรรมการจ้องเขม็ง โป๊ะ !!!!!!!!! เสียงแห่งหายนะ มือเราสั่นจน คอนโทรลขวดไม่อยู่ เจ็บใจมาก แต่ต้องลุยต่อ เท แชมเปญไปมือสั่นไป ฮือ เข้าช่วงตอบคำถามก็เสียงสั่นๆ และสำคัญเวลาตกใจพูดรัวๆ แถมหูอื้อ ฟังกรรมการไม่รู้เรื่อง ต้องขอให้เขาพูดใหม่

ออกจากห้องมาหน้าซีดเลย ตอนนี้ ความหวังริบหรี่ ได้ออกมาคุยกับเพื่อนๆ บางคนทำแก้วตก ไวน์หก เพราะตกใจ ก็ปลอบๆกันไป กรรมการบอกให้มาฟังผลตอน 18:00

@19:00
มีแต่ความเครียดอยู่รอบตัว เลยเวลามา 1 ชม ผลยังไม่ออก กลุ่มของ Tyler ขลุกอยู่กับ สมุดโน๊ต และหนังสือ ผมเลยเดินไปทัก

ผม : ทำไรกันอะ เชคคำตอบเหรอ
Tyler : เปล่าๆ อ่านหนังสือเตรียมสอบ
ผม: ????
Tyler : เผือปีนี้ตก ปีหน้าจะได้ไม่เสียใจ อีก
ผม : เฮ้ยยยย เตรียมกันวันนี้เลยเรอะ

ในใจนี่จะวิ่งออกไปหาไวน์กินแล้วจะผ่านไม่ผ่านช่างมันละ ขี้เกียจอ่านละหนังสือ ผมนับถือพวกเขาจริงๆ นี่มันเตรียมสอบจอหงวนชัดๆ ณ ตอนนั้นคิดเลยว่า เราตกนี่ไม่ต้องเสียใจเลย ดูคนอื่นเค้าเตรียมตัวแล้ว เรายังพยายามไม่ถึงครึ่งเค้าเลย Y Y

@19:30 ประตูเปิด Master Brian เดินมาเรียกเข้าห้องชี้ขะตา มี Cava (Sparkling wine ของสเปน) วางไว้ให้คนละแก้ว ทุกคนเรียงหน้ากระดานอีกละ ในใจผมมีความหวัง 10% เห็นเพื่อนข้างๆกระดกหมดแก้วด้วยความเครียด หลายๆคนไม่ดื่มเลย master เริ่มจากขาน เหล่า ผู้ผ่าน level 1. ทีละคน เสียงปรบมือดังเป็นระยะ คนไม่ผ่าน ก็เศร้ากันไป

หลังจากนั้นเป็นการประกาศผู้ทำผลงานได้ดีสุด ไม่พลิกโผ เทพซอมหญิง จากมาเก๊า ปรบมือๆๆ เธอเก่งจริงๆ

ประกาศผล Level 2. Certified Sommelier

กรรมการขานทีละชื่อ มันดราม่า กว่า Level 1 เยอะเลย ชื่อคนไหนออก มีคนตะโกนด้วยความดีใจ กระโดดตัวลอย วิ่งไปกอดกัน ผมเห็นแล้วน้ำตาซึมเลย ชื่อ Tyler มาแล้วว ผมวิ่งไปกอด 1 ที

รายชื่อในมือ master เหลือน้อยลงทุกที

เหมือนได้ยิน pira เฮ้ยสงสัยหูฝาด pira เฮ้ยชื่อเรานี่หว่า เพื่อนข้างๆ บอกเฮ้ยเอ็งผ่านโว้ยยย ณ ตอนนั้นร้องไห้เลย เข่าทรุด เดินออกไปรับเข็ม น้ำตาร่วงแผละ มือสั่นเลย ดีใจมากกลับมากอดกับ tyler กับเพื่อนๆ หลายรอบ รีบส่งข่าวบอกครอบครัว และกองเชียร์

รายชื่อหมดแล้ว คนไม่ผ่าน บางคนเดินออกนอกห้องไปเลย บางคนยืนร้องไห้ ผมเข้าใจพวกเค้าเลย พวกเค้าพยายามกันมากๆ

Master ร่วมถ่ายรูป และให้โอวาทกันต่ออีกนิด ก่อนจะแยกย้ายกันไป ได้แวะไปดื่มกันต่อกับเพื่อนๆ อีกสี่คน เบาๆ ก่อนจากลากันไป ยังจะมี blind taste กันเล่นๆ อีก 555 ผมตอบผิดอีก ฉลองเข็มใหม่

สุดท้ายนี้ ผมมองว่า ผมยังไม่คู่ควรกับคำว่า Certified Somm ยังไม่คู่ควร กับคำว่า ซอมเลย ยังต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะ ต้องอ่านอีกเยอะ เข็มไม่ได้มีไว้อวดใคร นอกไปจากเป็นการเตือนตัวเองว่า 5 เดือนที่ผ่านมา เราทำอะไรไปบ้าง และควรจะทำอะไรต่อ

ขอขอบคุณจากใจ (อีกรอบ) สำหรับผู้อยู่เบื้องหลังการไปสอบครั้งนี้ทุกๆคน

ขอบคุณมากครับ